วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ติวสอบ SAT I SAT IIเชียงใหม่โดยติวเตอร์ไทยและต่างชาติ

SAT คืออะไร SAT (Scholastic Assessment Tests) คือ การสอบมาตรฐานของเด็ก high school ในอเมริกา ซึ่งมี high school จำนวนมาก และมีมาตรฐานการเรียนการสอนตลอดจนการวัดผลแตกต่างกัน จึงมีการสอบเพื่อเปรียบเทียบความพร้อมและความสามารถที่แท้จริงของนักศึกษา แต่ละคน โดยไม่ใช้เกรดจากโรงเรียน เทียบได้กับการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยของประเทศไทย
 ข้อสอบ SAT มีเนื้อหาอะไร องค์กร College Board ได้ทำการพัฒนาข้อสอบ SAT มาตลอดโดยผลจากการวิจัยสรุปได้ว่านักศึกษามหาวิทยาลัยจะต้องเป็นคนที่มีทักษะการอ่าน การวิเคราะห์ และการเขียนที่ดีจึงจะประสบความสำเร็จในการเรียน องค์กร College Board เชื่อว่าข้อสอบเพียง 2 ส่วนก็สามารถวัดผลได้แล้ว (เวลาสมัครสอบ SAT เราจะได้สอบทั้งหมด) ซึ่งก็คือ Mathematics และ Reading & Writing สิ่งที่น่าสนใจก็คือการทำข้อสอบ SAT นั้นหากตอบถูกจะได้คะแนนข้อละ 1 คะแนน (ไม่ว่าข้อนั้นจะยากหรือง่าย) แต่ถ้าตอบผิดจะถูกหักคะแนนข้อละ 0.25 คะแนน ด้วยเหตุนี้นักเรียนบางคนจึงเลือกไม่ตอบคำถามบางข้อหาก ไม่มั่นใจเพราะแม้จะไม่ได้คะแนน แต่ก็จะไม่ถูกหักคะแนนด้วย คะแนนในส่วนนี้เรียกว่า Raw Score ทั้งนี้คะแนนเต็มของข้อสอบ SAT ในแต่ละวิชาหรือที่เรียกว่า Scaled Score นั้นคือ 800 คะแนน (รวม 3 วิชาเท่ากับ 2,400 คะแนน) ทำให้หลายๆคนงงว่ามีคำถาม 50-60 ข้อแต่ทำไมคะแนนเต็ม 800 คะแนน คำตอบก็คือคะแนน Raw Score ที่ทำได้จะถูกนำไปแปลงค่าเป็นคะแนน Scaled Score เช่น หากทำคะแนน Raw Score วิชา Critical Reading ได้ 50 คะแนนจะได้ Scaled Score ประมาณ 600 คะแนน ล่าสุดในการสอบปี 2016 ตั้งแต่รอบสอบ March เป็นต้นไปจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอบครั้งใหญ่ (ในไทยไม่มีรอบสอบนี้ แต่จะปรับในรอบถัดไปคือ May แทน) ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญดังนี้ 1. ไม่มีการหักคะแนนข้อที่ทำผิดอีกต่อไป (ข่าวดีมาก!) 2. ในส่วน Critical Reading และ Writing จะถูกยุบรวมกันและใช้ชื่อว่า Reading & Writing 3. การสอบ Essay จะกลายเป็น Optional (ไม่บังคับสอบ) 4. การสอบ Reading & Writing จะไม่ถามศัพท์มากเหมือนแบบเดิม แต่จะใช้วิธีถามว่าคำศัพท์ที่ปรากฏในเรื่อง มีความหมายว่าอย่างไรได้บ้าง ดังนั้นแม้จะไม่รู้จักศัพท์คำนั้น แต่อาจเดาได้จากความหมายรวมที่ตีความได้จากประโยค 5. การสอบ Reading & Writing จะมีคำถามจาก Graph และ Chart ให้ตอบหลายข้อ 6. การสอบ Mathematics จะมี topic ที่เพิ่มมาจากเดิม 7. การสอบ Mathematics จะมีบางข้อที่ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้
 ควรเริ่มเรียน SAT เมื่อไร การสอบ SAT ไม่มีการกำหนดอายุผู้สอบและเก็บผลไว้ได้ถึง 2 ปี ดังนั้นนักเรียนหลายๆคนจึงเริ่มเตรียมตัวสอบ SAT ตั้งแต่อยู่ม. 4 (หรือประมาณ Grade/Year 10) เนื่องจากทำให้มีโอกาสสอบหลายรอบมากกว่า นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้คะแนนสูงมากกว่าคนที่เตรียมตัวช้า เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับ SAT (1) SAT ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ Mathematics และ Reading and Writing (ในอดีตมี 3 ส่วนคือ Mathematics, Critical Reading และ Writing) (2) ในการคิดคะแนน เมื่อตอบถูกจะได้ 1 คะแนน แต่หากไม่ตอบหรือตอบผิดจะไม่ได้คะแนน แต่จะไม่มีการหักคะแนน (ต่างจากข้อสอบในอดีตที่หากตอบผิดจะมีการหักคะแนนด้วย) คะแนนในส่วนนี้เรียกว่า Raw Score โดยจะถูกนำไปแปลงค่าเป็น Scaled Score ต่อไป (คะแนนเต็มของ Scaled Score คือ 800 คะแนนในแต่ละส่วน) (3) ข้อสอบ Mathematics มี 58 ข้อ (20 ข้อห้ามใช้เครื่องคิดเลข ส่วนอีก 38 ข้อสามารถใช้เครื่องคิดเลขได้) ส่วน Reading and Writing มี 96 ข้อ (Reading มี 52 ข้อ ส่วน Writing มี 44 ข้อ) (4) SAT เป็นข้อสอบที่ฝึกการคิดและตอบคำถามให้เร็วและถูกต้อง ดังนั้นเวลาเฉลี่ยในการตอบคำถามแต่ละข้อจึงอยู่ระหว่าง 47-87 วินาทีเท่านั้น (75 วินาทีต่อข้อในส่วน Reading/ 47 วินาทีต่อข้อในส่วน Writing/ 75 วินาทีต่อข้อในส่วน Mathematics ที่ใช้เครื่องคิดเลขได้/ 87 วินาทีต่อข้อในส่วน Mathematics ที่ใช้เครื่องคิดเลขไม่ได้) (5) เมื่อกล่าวถึง SAT โดยทั่วไปมักหมายถึง “SAT I” หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ “SAT Reasoning Test” ส่วน SAT II นั้นมีเรียกอีกอย่างว่า “SAT Subject Tests” (6) SAT เป็นการสอบแบบ Paper-based Test หรือการฝนคำตอบลงบนกระดาษคำตอบ ยกเว้นบางข้อของ Mathematics ที่ใช้วิธี “grid-in” หรือเขียนคำตอบลงในกระดาษคำตอบด้วย (7) จากข้อมูลของ College Board คะแนนเฉลี่ยในปี 2015 ของ Mathematics, Critical Reading และ Writing คือ 511, 495 และ 484 คะแนนตามลำดับ (8) ในสหรัฐอเมริกา นักเรียนสามารถเลือกสอบได้ทั้ง SAT และ ACT ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ SAT (8) ในสหรัฐอเมริกา นักเรียนสามารถเลือกสอบได้ทั้ง SAT และ ACT ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ SAT สมัครสอบ SAT ได้ที่ไหน การสมัครสอบ SAT สามารถทำผ่านทางเว็บไซด์ของ College Board ซึ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบ การสอบ SAT โดยคลิกที่นี่เพื่อสมัครสอบ
 สอบ SAT ที่ไหน การสอบ SAT จะจัดขึ้นตามโรงเรียนนานาชาติทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตามรายชื่อต่อไปนี้ ศูนย์สอบในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1 Bangkok Pattana International School 2 British Columbia International School Bangkok 3 Concordian International School 4 Harrow International School 5 International Community School of Bangkok 6 Keerapat International School 7 KIS International School 8 New International School of Thailand 9 Ruamrudee International School 10 Thai-Chinese International School 11 Wells International School ศูนย์สอบในต่างจังหวัด 1 British International School, Phuket 2 International School Eastern Seaboard (Burapha Golf Club), Chonburi 3 Chiang Mai International School, Chiang Mai 4 Lanna International School in Chiang Mai, Chiang Mai 5 Pream Tinsulanonda International School, Chiang Mai 6 QSI International School of Phuket สอบ SAT เมื่อไร การสอบ SAT ในไทยจะถูกจัดขึ้น 6 ครั้งต่อปี คือในเดือน Oct, Nov, Dec, Jan, May, Jun โดยจะประกาศรอบสอบทั้ง 6 รอบนี้ทางเว็บไซท์ในเดือนมิถุนายน (ประมาณวันที่ 10-11) ซึ่งน้องๆ สามารถสมัครสอบล่วงหน้าทั้ง 6 รอบได้ทันทีที่มีการประกาศวันสอบออกมา สอบ SAT ไปแล้วนานเท่าไรจึงจะรู้ผลสอบ การสอบ SAT จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์จึงจะรู้ผลสอบ
 หลักสูตร NEW SAT 2016 ที่ TEST TUTOR เน้น
ระบบการสอนที่เข้าใจง่าย ไม่เน้นให้ท่องจำ เรียนรู้เทคนิคเพื่อพิชิตข้อสอบ
สร้างกระบวนการคิดให้นักเรียนสามารถวิเคราะห์และเข้าใจโจทย์ NEW SAT ได้ด้วยตนเอง
เทคนิคในการวิเคราะห์โจทย์และตอบคำถาม สรุปเนื้อหาสำคัญในการทำข้อสอบ NEW SAT 2016
ตะลุยแนวข้อสอบที่นักเรียนจำเป็นต้องรู้ เสริมความเข้าใจ
ประเมินความสามารถของนักเรียนอย่างละเอียด เพื่อออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียน
สอนสด ตัวต่อตัวหรือกลุ่มเล็ก (จำกัดนักเรียนไม่เกิน 5 คน)
ให้คำปรึกษา วางแผนตั้งแต่แนวทางการเรียนจนสอบเสร็จ รวมไปถึงการเลือกมหาวิทยาลัยที่จะศึกษาต่อ
ติดต่อได้ที่ TEST TUTOR : id line : all2060
email: testutor14@gmail.com
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ในโครงบิสเนสปาร์ค หลังบิ๊กซีเอกตร้า ใกล้มหาวิทยาลัยพายัพ เลขที่ 161/9 ม.4 ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 สาขา2 อาคารภูสรวงเพลส ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เบอร์โทรติดต่อ 052-009489, 085-0300735, 085-6154412

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น